พรสวรรค์เรื่องเล็ก ทำงานหนักเป็นเรื่องใหญ่ Talent
Genius is 10% inspiration and 90% perspiration -- Thomas A. Edison
พรสวรรค์เป็นเรื่องเล็ก ทำงานหนักเป็นเรื่องใหญ่
ในสาขาดนตรี เน้นกันมากในเรื่องพรสวรรค์ หรือความเป็น
อัจฉริยะ คนในสาขาอื่นอาจจะเรียนรู้สามารถ
พัฒนากันได้ แต่ถ้าเป็นสาขาดนตรี ไม่มีพรสวรรค์มาเลย
การพัฒนาจะยาก
ยกตัวอย่าง ในวงการดนตรีคลาสสิกระดับนานาชาติ
เด็กบางคนอายุไม่ถึง 10 ขวบก็เปิดการแสดงเดี่ยวเปียโน
หรือไวโอลินไปทั่วโลก ถ้าใครอายุถึง 20 แล้วยังเพิ่งเริ่มหัด
ก็คงหมดสิทธิสู้
แต่ผมเพิ่งเริ่มเมื่ออายุสิบแปด ก็ยังพอไหว เนื่องจากวาทยกร
ไม่จำเป็นต้องเด็กมาก แต่การมาเริ่มเอาจริงๆ จังๆ เรื่อง
ดนตรีตอนอายุขนาดนี้ก็ถือว่าช้าพอสมควร ต้องเรียนตามเขา
เมื่อไปเมืองนอกต้องทำงานหนักมาก
ผมวางแผนเลยว่าต้องไล่เขาให้ทัน และต้องแซงให้ได้
ภายใน 3 ปี
วางแผนการศึกษาและทำงานดนตรีวันละ 14 ชั่วโมง
นอนแค่ 7 ชั่วโมง ยกเว้นอาทิตย์ทำงานแค่ครึ่งวัน
ตลอด 3 ปีที่ออสเตรเลียผมอึดอัดมาก ต้องเรียนสาขา
บริหารธุรกิจเพื่อทางบ้าน และเรียนดนตรีเพื่อตนเอง
เพื่อให้ได้ปริญญาตรีสองใบ
ทุกครั้ง เมื่อไหร่ที่ผมจะต้องออกไปประกวดแข่งกับฝรั่ง ผมจะ
ใช้เวลาอย่างมากมายเตรียมตัวอย่างพร้อมเพรียงทุกรูปแบบ
หลายคน เมื่อไม่ได้เห็นการเดินทางกว่าจะมาถึงจุดนี้
ก็อาจบอกว่าผมฟลุก หรือโชคดี
พรสวรรค์ก็มีบ้างครับ ไม่มีก็คงไม่เริ่ม
แต่การทำงานหนักนั้น 90%
---------------------------------------------------------
เพิ่มคุณค่าให้ตนเองเสมอ
Constant Improvement
ถ้าความฝันของผมไม่เคยเป็นความจริงขึ้นมาเลย
อย่างน้อยที่สุด ในการที่ผมไล่ล่าความฝันนั้น
ผมก็ได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
เมื่อก่อนเป็นคนขี้อาย และไม่มีความเป็นผู้นำ ก็ต้อง
เปลี่ยน 180 องศา เพราะจะต้องยืนกำกับอยู่ต่อหน้าคน
นับร้อย ซึ่งเป็นคนต่างชาติล้วนๆ แถมต้องพูดภาษาที่ไม่ใช่
ภาษาแม่ ก็ต้องเอาชนะความอายและความด้อยเรื่องภาษา
กระทั่งถึงวันนี้ ถ้าผมหยุดพัฒนาตนเองเมื่อไร ก็จะล้าหลัง
ทันที ในสาขาอาชีพผมนั้น (และเชื่อว่าในทุกสายอาชีพ)
มีคนเก่งๆ ขึ้นมาใหม่ๆ เสมอ เป็นวิชาชีพที่มีการแข่งขันสูงมาก
เพราะคนที่อยากมาทำสายงานนี้มีมากมายเหลือเกิน
และเก่งๆ ก็มีมาก เส้นใหญ่ก็มีเยอะ
งานของผมไม่มีคำว่าอยู่เท่าเดิม ถ้าผมไม่โตหรือพัฒนา
ความก้าวหน้าในอาชีพก็จะเหี่ยวเฉาและตายไป
และความจริงนี้ใช้ได้กับธุรกิจหลายประเภท
ที่มีการแข่งขันกัน
บัณฑิต อึ้งรังษี
No comments:
Post a Comment