บัณฑิต อึ้งรังษี
“If one does not know to which port is sailing, no wind is favorable.” -- Seneca
“ถ้าเราไม่รู้ว่าเรือจะไปเข้าที่ท่าไหน ลมทิศไหนก็ไม่ช่วย” -- ซีนีก้า (4 ปีก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 65, นักปราชญ์โรมัน)
“Until you make the unconscious conscious, it will direct your life and you will call it fate.” -- Carl Jung
“ถ้าคุณไม่กำหนดทิศทางของจิตใต้สำนึกคุณเอง มันจะนำชีวิตคุณ และคุณก็จะเรียกมันว่า ‘โชคชะตา’ ” -- คาร์ล ยุง (ค.ศ. 1875 - 1961, นักจิตวิทยาคนสำคัญของโลกชาวสวิส)
“โชค” ของคุณจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทันที ถ้าคุณเพียงแค่รู้ว่าคุณต้องการอะไร
เป็นความจริงที่ว่า “โชคดี” จะไม่ค่อยมาเยือนคนที่ ไม่รู้ ว่าตนเองต้องการอะไร
หรือ ไม่แน่ใจ ว่าอยากได้แบบไหน
เหตุผลง่ายๆ จิตใต้สำนึกไม่มีเป้าหมายให้โดน
อาจมีโอกาสดีๆ เข้ามาจ่ออยู่ตรงหน้าแล้ว
แต่นึกไม่ถึง หรือ ไม่รู้ว่าเป็น “โชค”
โชคดีนั้นก็ผ่านเขาไปหาคนอื่น
ลองเปรียบ จิตใต้สำนึก เหมือนกับ คนขับรถผู้ซื่อสัตย์ ที่พร้อมจะรับคำสั่งให้พาเราไปถึงจุดหมายที่ต้องการตลอดเวลาอย่างจงรักภักดี
ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับคนขับรถ เราก็จะได้สิ่งที่ต้องการง่ายขึ้น ไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น
ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ชอบไปทำให้จิตใต้สำนึกปั่นป่วน เพราะความไม่รู้อย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร
คล้ายๆ กับว่าคุณขึ้นรถ แล้วบอกคนขับรถว่าให้ไปสยามสแควร์
ขับไปสักพักก็บอกว่าจะไปสนามบิน ต้องเปลี่ยนทิศทาง
ขับไปได้อีกหน่อยก็เปลี่ยนคำสั่ง บอกว่าจะไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ทำแบบนี้ก็ไม่มีวันถึงเป้าหมาย
.....................................
เมื่อคุณรู้อย่างชัดเจนว่า คุณต้องการอะไรจากชีวิต และกำลังเดินเข้าเป้าหมายไหน
จะมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์ เหมือนว่า “ฟ้า” “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หรือ “จักรวาล” หรือ “พระเจ้า” จะส่ง คน หรือ สถานการณ์ มาช่วยอย่างสม่ำเสมอ
“The moment one definitely commits oneself, then providence moves too.” - Goethe
“นาทีที่คุณมีความแน่วแน่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เคลื่อนไหวด้วย” -- เกอเต้ (กวีเยอรมัน)
นั่นเป็นเพราะสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนมีในระบบประสาทของเรา ซึ่งนักจิตวิทยาเรียกว่า Reticular Activating System
เป็นระบบที่ทำให้จิตใต้สำนึกของเรา ตื่นตัว กับสิ่งที่จะมาช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ระบบ Reticular Activating System นี้ เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมบางครั้งเมื่อตัดสินใจอย่างชัดเจนว่าเราอยากได้สิ่งของอะไรบางอย่าง เช่น รถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เราก็จะสังเกตเห็นมันอยู่บนท้องถนนตลอดเวลา
เพราะว่า เราตื่นตัว กับมันมากขึ้น
ผมมีประสบการณ์กับตนเองครั้งแล้วครั้งเล่าที่ว่า เมื่อผมเองชัดเจนว่าตนเองต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคู่ครอง งานชนิดที่ต้องการทำ ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการมี หรือ จำนวนรายได้ที่ต้องการในหนึ่งปี ฯลฯ
ก็จะมีคน หรือ สถานการณ์ ถูกส่งเข้ามาในชีวิต นำให้ตนเองได้รับสิ่งนั้นอย่างน่าอัศจรรย์เป็นเพราะผม ตื่นตัว กับโอกาสต่าง ๆ ที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อจะช่วยให้ผมถึงเป้าหมายได้
คนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปก็จะบอกว่า บัณฑิตนี่ “โชคดี” จัง
....................................
วิธีที่ดีที่สุดในการรู้ว่าตนเองต้องการอะไร
คือ การเขียนลงไป
การเขียนจะบังคับให้คุณต้องกำหนดให้มันชัดเจน
การเขียนเป็นวิธีแห่งความสำเร็จที่ทรงพลังมาก
บางครั้งแค่เขียนสิ่งที่ต้องการลงไป ก็เหมือนกับว่าสิ่งนั้นสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ที่สำคัญ ทุกสิ่งที่เขียนต้องมีความชัดเจน วัดได้
อ่านสิ่งที่คุณเขียนนั้นทุกวัน และวาดภาพในจินตนาการเหมือนกับว่าสิ่งนั้นได้สำเร็จแล้ว
และคุณกำลังได้ลิ้มรสมันอยู่
แล้วคุณจะได้พบกับความน่าอัศจรรย์ของ การเขียน และ การจินตนาการ
เพราะ “การจินตนาการนั้นสำคัญกว่าความรู้” อย่างที่ไอน์สไตน์ได้กล่าวไว้
ความฝันในชีวิตของผมหลายๆ อย่างเป็นความจริงได้ด้วยวิธีนี้
อย่าลืมคำกล่าวของซีนีก้าครับ
“ถ้าเราไม่รู้ว่าเรือจะไปเข้าที่ท่าไหน ลมทิศไหนก็ไม่ช่วย”
ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร “โชค” ที่ไหนก็ไม่ช่วย
“Understanding your true desires is the key to recognizing favourable circumstances and extracting the greatest amount of good luck from them. You can accurately determine where luck exists and where it does not.” -- Robert Anthony
“ความเข้าใจในความปรารถนาที่แท้จริงของตนเองนั้น เป็นกุญแจสำคัญในการจำแนก สภาพแวดล้อมและโอกาสอันเอื้ออำนวยต่อความโชคดี คุณจะสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่าที่ไหนที่มีโชค และที่ไหนไม่มี” -- โรเบิร์ต แอนโทนี่ (นักจิตวิทยาความสำเร็จ)
Luck Technique :
คิดและพูดในสิ่งที่ต้องการอย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งคุณคิดและพูดในสิ่งที่คุณต้องการ ในสิ่งที่คุณอยากเป็นมากเท่าไร สิ่งนั้นยิ่งเป็นจริงเร็วขึ้นเท่านั้น
อย่าพูดและคิดถึงในสิ่งที่คุณไม่ต้องการ
No comments:
Post a Comment